วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ประโยชน์ 10 ประการของไข่




ไข่ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นอาหารหลักของคนทุกชนชั้นทุกชาติ จากประโยชน์ที่ไข่มอบให้กับร่างกายของคนเรานั่นเอง และต่อไปนี้คือ ประโยชน์ 10 ประการจากการบริโภคไข่ ซึ่งบางอย่างคุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน

 1. ไข่เป็นอาหารที่ดีสำหรับดวงตา ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า การรับประทานไข่วันละฟองอาจจะช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม ทั้งนี้เนื่องมาจากสารคาโรทีนอยด์ที่อยู่ในไข่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (zeaxanthin) ซึ่งเป็นสารที่พบบริเวณตา โดยฉาบอยู่บนผิวของเรตินา เพราะร่างกายจะได้รับสารอาหารทั้งสองอย่างนี้โดยตรงจากไข่มากกว่าอาหารชนิดอื่น

 2. ไข่ทำให้เป็นต้อกระจกน้อยลง จากผลการวิจัยอีกชิ้นหนึ่งนักวิจัยยังพบว่า คนที่กินไข่ทุกวันมีความเสี่ยงที่จะเป็นต้อกระจกน้อยลง อันเนื่องมาจากลูทีนและซีแซนทีนในไข่ดังได้กล่าวมาแล้ว

 3. ไข่อุดมไปด้วยโปรตีน โดย 1 ฟองจะมีโปรตีนคุณภาพดี 6 กรัม และกรดอะมิโนสำคัญอีก 9 ชนิด

 4. ผลจากการทำวิจัยโดยมหาวิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ดพบว่า ไม่มีความเชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างการบริโภคไข่กับการเกิดโรคหัวใจ แถมยังมีผลการวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่พบว่า การบริโภคไข่เป็นประจำยังช่วยป้องกันเลือดจับตัวเป็นก้อน เส้นเลือดอุดตันในสมอง และภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

 5. ไข่เป็นแหล่งโคลีนที่ดี โดยโคลีนอยู่ในกลุ่มของวิตามินบี จัดเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยในการควบคุมการทำงานของสมอง ระบบประสาท และระบบไหลเวียนของเลือด โดยไข่ 1 ฟองจะมีโคลีนมากถึง 300 ไมโครกรัม

 6. ไขมันในไข่มีคุณภาพดี ไข่ 1 ฟองมีไขมันอยู่ 5 กรัม และมีเพียง 1.5 กรัมเท่านั้นที่เป็นไขมันชนิดอิ่มตัว

 7. แม้ว่าออกจะขัดแย้งกับความเชื่อเดิมๆ แต่งานวิจัยชิ้นใหม่กลับพบว่า การบริโภคไข่แต่พอสมควรจะไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อปริมาณคอเลสเตอรอล มิหนำซ้ำยังมีการศึกษาพบเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การบริโภคไข่วันละ 2 ฟองเป็นประจำวันไม่มีผลกระทบต่อระดับไขมันในร่างกาย มิหนำซ้ำอาจจะช่วยทำให้ไขมันดีขึ้น โดยผลการวิจัยกล่าวว่า ไขมันอิ่มตัวจะทำให้ระดับคอเรสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าคอเลสเตอรอลที่อยู่ในอาหาร

 8. กินไข่ได้วิตามินดี เพราะไข่เป็นอาหารเพียงชนิดเดียวที่เป็นแหล่งวิตามินดีตามธรรมชาติ

 9. ไข่อาจจะช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม โดยผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้หญิงที่รับประทานไข่ 6 ฟองต่อสัปดาห์ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมลงร้อยละ 44

 10. ไข่ทำให้เส้นผมและเล็บมีสุขภาพดี เพราะว่าไข่มีซัลเฟอร์สูง รวมถึงยังมีวิตามินและแร่ธาตุอีกหลายชนิด หลายคนจึงพบว่าผมยาวเร็วขึ้นหลังจากที่เพิ่มไข่เข้าไปในอาหารที่รับประทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่เคยขาดอาหารที่มีซัลเฟอร์หรือวิตามินบี12 มาก่อน

การบริโภคไข่ที่เหมาะสม

แม้ว่าไข่จะมีคุณประโยชน์มากมาย แต่หลายคนก็ยังกังวล ฉะนั้นการกินไข่ในปริมาณที่เหมาะสมกับวัย ควบคู่กับการออกกำลังกายเป็นประจำจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี โดยคนแต่ละวัยสามารถบริโภคไข่ได้ดังนี้

- เด็กอายุ 1 ปีจนถึงเด็กวัยเรียนสามารถบริโภคไข่ได้วันละ 1 ฟอง
- ผู้ใหญ่ที่มีภาวะร่างกายปกติสามารถบริโภคไข่ได้ 3-4 ฟองต่อสัปดาห์
- คนวัยทำงานสุขภาพดี สามารถบริโภคไข่ได้วันละ 1 ฟองทุกวัน ไม่เพิ่มคอเลสเตอรอลและไม่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
- กลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ หรือโรคที่ต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงสามารถบริโภคไข่เพียง 1 ฟองต่อสัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์





วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

หลอดดูดน้ำ

ความเป็นมาของหลอดดูดน้ำ

               สมัยก่อนมนุษย์กับธรรมชาติมีความเป็นอยู่ใกล้ชิดกันมาก มนุษย์รู้จักการดูแลรักษาธรรมชาติ ธรรมชาติก็ให้ประโยชน์แก่มนุษย์ มีความเป็นอยู่แบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน บรรดานักประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงหลายคน เกิดความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์สิ่งของต่างๆมาจากการสังเกตธรรมชาติ สังเกตสิ่งแวดล้อมรอบตัว มีการลองผิดลองถูกนับครั้งไม่ถ้วน จนได้ข้าวของเครื่องใช้ที่อำนวยความสะดวกแก่มนุษย์อย่างในปัจจุบัน ตัวอย่างสิ่งของที่ผู้เขียนจะนำเสนอให้ผู้อ่านได้อ่านกันในวันนี้ เป็นของใกล้ตัวมีขนาดเล็กมากจนอาจทำให้ทุกคนมองข้ามไม่เคยสงสัยว่าสิ่งนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ใครเป็นคนประดิษฐ์คิดค้นมันขึ้นมาคือ “หลอดดูดน้ำ” นั้นเอง



                หลอดดูดน้ำที่เราใช้กันทั่วไปในปัจจุบันมีวิวัฒนาการมาจากสมัยก่อน ตอนที่ยังไม่มีหลอดดูดน้ำมนุษย์จะใช้ หญ้า ryegrass ซึ่งมีลักษณะเป็นปล้องกลวงๆยาวๆคล้ายก้านมะละกอในบ้านเราดูดน้ำกัน นาย มาร์วิน สโตน ใช้การสังเกตอุปกรณ์ดูดน้ำอย่างหญ้ามาเป็นแรงบันดาลใจประดิษฐ์หลอดดูดน้ำ โดยการพันแถบกระดาษเล็กๆรอบแท่งดินสอแล้วทากาวให้คงรูป จากนั้นจึงเคลือบไขพาราฟินจนกระดาษมะนิลาปิดรอบ เพราะการใช้กระดาษอย่างเดียวนั้นจะไม่ค่อยคงทนเมื่อถูกน้ำแล้วจะเปื่อยง่าย ต่อจากนั้นจึงมีการปรับเปลี่ยนให้มีโครงสร้างที่เหมาะสมกับการใช้งานจนได้เป็นหลอดดูดน้ำอย่างในปัจจุบัน หลอดดูดน้ำเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 1888 โดยหลอดดูดน้ำรุ่นแรกที่ผลิตออกมา มีความยาว 8.5 นิ้ว แต่มีขนาดรูเล็กมากเพื่อป้องกันเมล็ดผลไม้ในน้ำผลไม้ต่างๆ จำพวกน้ำส้ม น้ำมะนาว เล็ดรอดเข้าไปในลำคอได้ จากนั้นก็มีการพัฒนาหลอดดูดน้ำให้มีรูปลักษณ์สวยงาม ทันสมัยมากขึ้น อย่างเช่นแต่ก่อนหลอดดูดน้ำที่เราใช้กันตอนเด็กๆมีขนาดประมาณ 8 นิ้ว ขนาดรูหลอดกว้างประมาณ 7 มิลลิเมตร แต่ปัจจุบันหลอดมีขนาดอ้วนขึ้นเพื่อความสะดวกในการบริโภคเครื่องดื่มจำพวกชาไข่มุกหรือหลอดมีขนาดยาวขึ้นตามขนาดของน้ำอัดลมที่มีขนาดของขวดสูงขึ้นเป็นต้น ดังนั้นแม้ว่าหลอดจะมีวิวัฒนาการทันสมัยเพียงใด เราจะไม่มีวันมีข้าวของเครื่องใช้อำนวยความสะดวกใช้อย่างทุกวันนี้เลยถ้าไม่มีเหล่ามนุษย์ผู้ช่างสังเกต คอยมองสังเกตธรรมชาติรอบๆตัวแล้วเกิดความคิดสร้างสรรค์สิ่งดีๆพัฒนาอย่างมีขั้นตอนดังเช่นทุกวันนี้